เมนู

ย่อมปรากฏ เมื่อเวทนาตั้งอยู่ ความแปรปรวนย่อมปรากฏ ทรงบัญญัติ
ลักษณะ 3 แม้แห่งอรูปธรรม ย่อมได้ลักษณะ 3 เหล่านั้น เพราะอาศัย
ขณะปัจจุบัน ครั้นกล่าวดังนี้แล้วสำเร็จความนั้นตามอาจริยคาถานี้ว่า
อตฺถิตา สพฺพธมฺมานํ ฐิติ นาม ปวุจฺจติ
ตสฺเสว เภโท มรณํ สพฺพทา สพฺพปาณินํ
ความที่ธรรมทั้งปวงเป็นปัจจุบัน ท่าน
เรียกว่าฐิติขณะ ความแตกดับแห่งรูปนั้นแล
ของสรรพสัตว์ในกาลทุกเมื่อ เรียกว่า มรณะ ดังนี้

อนึ่ง ท่านยังกล่าวว่า พึงทราบว่าปาณะปราณด้วยอำนาจ
สันตติ. ก็เพราะเหตุที่ในพระสูตรไม่มีความแปลกกัน ฉะนั้น ตามมติของ
อาจารย์ก็ไม่พึงเพิกถอนพระสูตร พึงกระทำพระสูตรเท่านั้นเป็นสำคัญ.
จบ อรรถกถาอานันทสูตรที่ 1

6. อานันทสูตรที่ 2



ว่าด้วยความเป็นอนิจจังแห่งขันธ์ 5 ในสามกาล



[51] กรุงสาวัตถี. ฯลฯ ครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะ
ท่านพระอานนท์ว่า ดูก่อนอานนท์ ถ้าภิกษุทั้งหลายพึงถามเธออย่างนี้ว่า
ท่านอานนท์ ความบังเกิดขึ้นแห่งธรรมเหล่าไหนปรากฏแล้ว ความเสื่อม
แห่งธรรมเหล่าไหนปรากฏแล้ว ความเป็นอย่างอื่นแห่งธรรมเหล่าไหน
ที่ตั้งอยู่ปรากฏแล้ว ความบังเกิดขึ้นแห่งธรรมเหล่าไหนจักปรากฏ

ความเสื่อมแห่งธรรมเหล่าไหนจักปรากฏ ความเป็นอย่างอื่นแห่งธรรม
ที่ตั้งอยู่แล้วเหล่าไหนจักปรากฏ ความบังเกิดขึ้นแห่งธรรมเหล่าไหน
ย่อมปรากฏ ความเสื่อมแห่งธรรมเหล่าไหนย่อมปรากฏ ความเป็น
อย่างอื่นแห่งธรรมที่ตั้งอยู่แล้วเหล่าไหนย่อมปรากฏ ก่อนอานนท์
เธอถูกถามอย่างนี้แล้ว พึงพยากรณ์อย่างไร.
ท่านพระอานนท์กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ฯลฯ
ข้าพระองค์ถูกถามอย่างนี้แล้ว พึงพยากรณ์อย่างนี้ว่า ดูก่อนอาวุโส
ทั้งหลาย รูปใดแลที่ล่วงไปแล้ว ดับแล้ว แปรไปแล้ว ความบังเกิดขึ้นแห่ง
รูปนั้นปรากฏแล้ว ความเสื่อมแห่งรูปนั้นปรากฏแล้ว ความเป็นอย่างอื่น
แห่งรูปที่ตั้งอยู่แล้วนั้นปรากฏแล้ว เวทนา ฯลฯ สัญญา ฯลฯ สังขาร
ฯลฯ วิญญาณใดที่ล่วงไปแล้ว ดับแล้ว แปรไปแล้ว ความบังเกิดขึ้น
แห่งวิญญาณนั้นปรากฏแล้ว ความเสื่อมแห่งวิญญาณนั้นปรากฏแล้ว
ความเป็นอย่างอื่นแห่งวิญญาณที่ตั้งอยู่แล้วนั้นปรากฏแล้ว ดูก่อนอาวุโส
ทั้งหลาย ความบังเกิดขึ้นแห่งธรรมเหล่านี้แลปรากฏแล้ว ความเสื่อม
แห่งธรรมเหล่านี้แลปรากฏแล้ว ความเป็นอย่างอื่นแห่งธรรมที่ตั้งอยู่
แล้วเหล่านี้แลปรากฏแล้ว ดูก่อนอาวุโสทั้งหลาย รูปใดแลยังไม่เกิด
ยังไม่ปรากฏ ความบังเกิดขึ้นแห่งรูปนั้นจักปรากฏ ความเสื่อมแห่งรูป
นั้นจักปรากฏ ความเป็นอย่างอื่นแห่งรูปที่ตั้งอยู่แล้วนั้นจักปรากฏ
เวทนา ฯลฯ สัญญา ฯลฯ สังขาร ฯลฯ วิญญาณใดยังไม่เกิด ยังไม่
ปรากฏ ความบังเกิดขึ้นแห่งวิญญาณนั้นจักปรากฏ ความเสื่อมแห่ง
วิญญาณนั้นจักปรากฏ ความเป็นอย่างอื่นแห่งวิญญาณที่ตั้งอยู่แล้วนั้น
จักปรากฏ ก่อนอาวุโสทั้งหลาย ความบังเกิดขึ้นแห่งธรรมเหล่านี้
แลจักปรากฏ ความเสื่อมแห่งธรรมเหล่านี้แลจักปรากฏ ความเป็น

อย่างอื่นแห่งธรรมเหล่านี้ที่ตั้งอยู่แล้วแลจักปรากฏ ดูก่อนอาวุโสทั้งหลาย
รูปใดแลที่เกิด ที่ปรากฏ ความบังเกิดขึ้นแห่งรูปนั้นย่อมปรากฏ
ความเสื่อมแห่งรูปนั้นย่อมปรากฏ ความเป็นอย่างอื่นแห่งรูปที่ตั้งอยู่แล้ว
นั้นย่อมปรากฏ เวทนา ฯลฯ สัญญา ฯลฯ สังขาร ฯลฯ วิญญาณใดที่เกิด
ที่ปรากฏ ความบังเกิดขึ้นแห่งวิญญาณนั้นย่อมปรากฏ ความเสื่อม
แห่งวิญญาณนั้นย่อมปรากฏ ความเป็นอย่างอื่นแห่งวิญญาณที่ตั้งอยู่
แล้วนั้นย่อมปรากฏ ดูก่อนอาวุโสทั้งหลาย ความบังเกิดขึ้นแห่งธรรม
เหล่านี้แลย่อมปรากฏ ความเสื่อมแห่งธรรมเหล่านี้แลย่อมปรากฏ
ความเป็นอย่างอื่นแห่งธรรมที่ตั้งอยู่แล้วเหล่านี้แลย่อมปรากฏ ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ถูกถามอย่างนี้แล้ว พึงพยากรณ์อย่างนี้แล.
[82] พ. ถูกแล้ว ถูกแล้ว อานนท์ รูปใดที่ล่วงไปแล้ว ดับแล้ว
แปรไปแล้ว ความบังเกิดขึ้นแห่งรูปนั้นปรากฏแล้ว ฯลฯ1 ดูก่อนอานนท์
ความบังเกิดขึ้นแห่งธรรมเหล่านี้แลย่อมปรากฏ ความเสื่อมแห่งธรรม
เหล่านี้แลย่อมปรากฏ ความเป็นอย่างอื่นแห่งธรรมที่ตั้งอยู่เหล่านี้แล
ย่อมปรากฏ ดูก่อนอานนท์ เธอถูกถามอย่างนี้แล้ว พึงพยากรณ์อย่างนี้.
จบอานันทสูตรที่ 2

อรรถกถาอานันทสูตรที่ 2



ในอานันทสูตรที่ 2 มีเนื้อความง่ายทั้งนั้น
จบ อรรถกถาอานันทสูตรที่ 2
1. แยกเป็น เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ทั้ง 4 กาล เหมือนข้อ 81